มั่นใจเลยว่าทุกๆ คนต้องฝากเงินไว้กับธนาคารทั้งนั้นเผลอๆ บางคนมีมากกว่าหนึ่งธนาคารด้วยซ้ำไปซึ่ง การฝากเงินก็ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว แต่มีอยู่หลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับสิ่งแต่ละคนต้องการมากที่สุด มาดูกันว่าบัญชีเงินฝากแต่ละประเภทเป็นยังไง 1. บัญชีเงินฝากออกทรัพย์ อันนี้น่าจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งใครที่ทำงานบริษัท มักจะใช้แบบออมทรัพย์ในการให้บริษัทโอนเงินเดือนเข้าบัญชีนี้ เหมาะสำหรับการใช้จ่ายประจำวันได้แบบสะดวก ไว้ฝากเข้าถอนออกได้สะดวก หรือโอนซื้อของออนไลน์บ่อยๆ เป็นการออมเงินระยะสั้นๆ โดยเราจะได้ดอกเบี้ยด้วยแต่จะได้ไม่มาก และธนาคารจะจ่ายเงินให้กับผู้ฝากปีละ 2 ครั้ง ขอบคุณภาพ: rawpixel 2. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เรียกอีกอย่างว่าบัญชีเดินสะพัด เหมาะกับคนที่ทำธุรกิจเพื่อไว้สำหรับการทำธุรกรรม โดยสามารถใช้เช็คในการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้อื่นได้ อีกทั้งผู้ฝากยังสามารถเบิกเกินบัญชีได้ แต่มีการคิดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมยอดขั้นต่ำ คือเราต้องมีเงินในบัญชีตามที่ธนาคารนั้นๆ กำหนด ถ้าไม่อย่างนั้นจะเสียค่าธรรมเนียม และที่สำคัญคือการฝากประเภทนี้จะไม่ได้ดอกเบี้ย จึงไม่เหมาะกับการออมเงิน 3.
เงินฝากออมทรัพย์ (Saving Deposit Account) เป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับผู้ออมรายย่อย เนื่องจากไม่มีการกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ หรือกำหนดไว้ต่ำมาก รวมทั้งไม่มีกำหนดระยะเวลาในการรับฝาก เป็นบัญชีที่มีความคล่องตัวในการเบิกถอน ในส่วนของอัตราดอกเบี้ย ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน แต่จะสะสมยอดไว้และจ่ายให้กับผู้ฝาก ปีละ 2 ครั้ง โดยจ่ายตอนสิ้นเดือนมิถุนายน และสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี ส่วนบัญชีที่มียอดเงินฝากในบัญชีสูงมากๆและมียอดดอกเบี้ยที่ได้รับเกิน 20, 000 บาทโดยรวมจากทุกธนาคารในหนึ่งปี ผู้ฝากจะต้องเสียภาษีบนดอกเบี้ยที่ได้รับในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี (กรณีเป็นบุคคลธรรมดา) 2.
บัญชีเงินฝากมีกี่ประเภท และแต่ล่ะประเภทต่างกันอย่างไร ได้ยินคำว่าเงินฝากหลายคนคงเข้าใจกันดีอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครไม่เคยฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน แต่โดยส่วนใหญ่นั้นจะเลือกฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์กัน เราจึงจะมาดูกันว่าในประเทศไทยมีบัญชีเงินฝากกี่ประเภทและแต่ล่ะประเภทแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะเลือกใช้บัญชีเงินฝากได้อย่างเหมาะสม บัญชีเงินฝากแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะเป็นบัญชีที่ธนาคารพาณิชย์ ทำออกมาเพื่อให้ลูกค้ารายย่อย โดยใช้จะเน้นความสะดวกสบายในการฝากและถอนเงิน โดยจะมีไม่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากและถอน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้นจากดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินด้วย ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะจ่ายเงินให้ผู้ฝากปีล่ะ 2 ครั้ง โดยจะคำนวณเป็นรายวัน แต่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างน้อยเพราะว่าไม่มีการกำหนดเวลาในการฝาก จะถอนเมื่อไรก็ได้ ธนาคารจึงไม่สามารถนำเงินไปต่อยอดได้มาก และคนส่วนใหญ่จะไม่นำเงินจำนวนมากมาฝากในบัญชีประเภทนี้ ทำให้ไม่เห็นผลกำไรที่ชัดเจน 2. บัญชีเงินฝากประจำ เป็นบัญชีเงินฝากที่มีการกำหนดระยะเวลาและจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เพราะว่าการฝากเงินใน บัญชีเงินฝากประจำจะมีระยะเวลาในการฝากที่นานกว่าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ ธนาคารจึงสามารถนำเงินไปต่อยอดเพิ่มได้เช่น การนำเงินไปปล่อยกู้ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เป็นต้น บัญชีเงินฝากประจำจึงเหมาะกับคนที่มีเงินสดไม่จำเป็นต้องใช้และต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และรับความเสี่ยงได้น้อย เพราะการลงทุนประเภทเงินฝากถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มีความเสี่ยง 3.
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีที่ใครๆ ก็เปิดและคุ้นเคยกันดี บัญชีประเภทนี้มีจุดประสงค์เพื่อการออมเงินเป็นหลักค่ะ รวมถึงยังเป็นบัญชีที่เหมาะกับการใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งการเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน การออมเงินระยะสั้น หรือเพื่อใช้เป็นบัญชีสำหรับเอาไว้จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ประจำทุกเดือน ทั้งค่าน้ำค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ซึ่งการเปิดบัญชีประเภทนี้มักจะกำหนดเงินฝากขึ้นต่ำไว้ไม่เยอะมาก แต่อัตราดอกเบี้ยที่ได้ก็จะไม่สูงมากเช่นกันค่ะ 2. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน/บัญชีเงินฝากเดินสะพัด เป็นบัญชีที่เหมาะกับการเปิดไว้เพื่อทำธุรกิจค่ะ โดยบัญชีแบบนี้เราสามารถที่จะใช้เช็คในการเบิกจ่ายได้ รวมถึงสามารถเบิกเกินบัญชีได้ด้วย ซึ่งธนาคารก็จะมีการคิดดอกเบี้ยด้วยเช่นกันค่ะ บัญชีประเภทนี้จะมีค่าธรรมเนียมยอดขั้นต่ำ เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราต้องมีเงินติดบัญชีไว้ตามที่ธนาคารกำหนดไม่อย่างนั้นจะเสียค่าธรรมเนียมค่ะ แต่ที่สำคัญมากๆ เลยก็คือ บัญชีเงินฝากรายวันหรือบัญชีเงินฝากเดินสะพัดนั้นจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากนะคะ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นบัญชีที่ไม่เหมาะกับการออมเงินค่ะ 3. บัญชีเงินฝากประจำ อีกหนึ่งประเภทของบัญชีเงินฝากที่เราคิดว่าคงมีหลายๆ คนได้ใช้ นั่นก็คือ บัญชีเงินฝากประจำ นั่นเองค่ะ บัญชีประเภทนี้มักจะกำหนดระยะการฝากเงินไว้ อย่างเช่น 1 ปี, 5 ปี ซึ่งบัญชีประเภทนี้จะให้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเภทของบัญชีทั้งหมดค่ะ เหมาะแก่การออมเงินในระยะยาวและคนที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงคนที่ต้องการออมเงินเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงค่ะ อย่างไรก็ตามหากเราจำเป็นจะต้องถอนเงินออกจากบัญชีฝากประจำก่อนครบระยะเวลาที่กำหนด เราก็อาจจะได้ดอกเบี้ยที่น้อยกว่าอัตราที่สถาบันการเงินประกาศไว้ค่ะ 4.