บัญชีรายชื่อตามโมเดลปัจจุบันคือ 100 คน จะได้สัดส่วน "354, 419คะแนน" ต่อ"ส. บัญชีรายชื่อ1คน" นอกจากนี้หากไล่ลึกลงไปในรายพรรคพบว่า หากใช้โมเดลตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะมีเพียง 11 พรรคที่ได้คะแนนพรรคตั้งแต่ 354, 419 คะแนนขึ้นไป และเมื่อหารด้วยคะแนนพึงมีจะได้จำนวนปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนพรรค 8, 413, 413 คะแนน หารคะแนนพึงมีจะได้ ส. ปาร์ตี้ลิสต์ 24 คน(จากเดิม18คน) พรรคเพื่อไทย คะแนนพรรค 7, 881, 006 คะแนน หารคะแนนพึงมีจะได้ส. 22 คน(จากเดิม 0 คน) พรรคก้าวไกล หรือ อนาคตใหม่เดิม คะแนนพรรค 6, 254, 726 คะแนน หารคะแนนพึงมีจะได้ ส. 18 คน(จากเดิม50คน) พรรคประชาธิปปัตย์ คะแนนพรรค 3, 957, 620 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 11 คน (จากเดิม19คน) พรรคภูมิใจไทย คะแนนพรรค3, 734, 055 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 11 คน(จากเดิม12คน) พรรคเสรีรวมไทย คะแนนพรรค 822, 240คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 2คน(จากเดิม10 คน) พรรคชาติไทยพัฒนา คะแนนพรรค 783, 607 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 2คน(จากเดิม4คน) พรรคเศรษฐกิจใหม่ คะแนนพรรค 485, 574 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 1คน(จากเดิม6คน) พรรคประชาชาติ คะแนนพรรค 481, 143 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส.
© Matichon ภาพประกอบข่าว ศาลจังหวัดเกาะสมุยพิพากษาผู้ร่วมงานปาร์ตี้วันเกิด 44 คน ให้จำคุก15 วัน ปรับคนละ 10, 000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วน และร้านอาหาร 2 ร้าน จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปรับร้านละ 5, 000 บาท เมื่อเวลา 13. 00 น. วันที่ 12 ก. ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีจากที่ นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย นายนภดล ขาวมะลิ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะสมุย พ. ต. อ. ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก. สภ. บ่อผุด สั่งการให้ นายจิรภัทร ชูจันทร์ ปลัดฝ่ายปกครอง พ. วรรณชัย สุขแจ่ม สวป. บ่อผุด ร. อดุลย์ พรหมบุตร หน. ชป. กอ. รมน. ภาค4 พื้นที่เกาะสมุย นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกทลายปาร์ตี้วันเกิดในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนเขาภายในโครงการบ้านพักตากอากาศหรู พื้นที่ ม. 4 ต. บ่อผุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 44 คน เป็นชาวต่างชาติ 26 คน และคนไทย 18 คน ที่รวมกลุ่มกันลักษณะมั่วสุม เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดำเนินคดีข้อกล่าวหา ร่วมกันฝ่าฝืน พ. ร. ก. ฉุกเฉิน (เกี่ยวกับโรคระบาด) ในลักษณะมั่วสุมก่อให้เกิดโรคระบาด และร่วมกันฝ่าฝืน พ. บ.
เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 พ. ค. ที่ผ่านมา ผลทำให้พรรคอนาคตใหม่ ได้ ส. เขต ไป 1 คน แทนตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ทำให้ พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการจัดสรร ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ด้วย แต่ที่นั่งที่ว่าแค่ 1 ที่ จึงต้องมีคนสักคนโดนเขี่ยออกไป หวย ก็ไปออกที่พรรคไทรักธรรม ที่เศษคะแนนอยู่ในลำดับที่ 22 อย่างไรก็ตาม หวังว่า ไม่ว่าจะเป็นครูสอนวิชาสังคม หรือ ใครก็ตามที่สนใจอยากคำนวณ ส. ด้วยตัวเอง แต่ยังสับสน จะได้รับคำตอบเสียที และนำไปปรับใช้ เพื่อจะได้ทราบที่มาที่ไปว่า ทำไม ส. ถึงเข้าๆ ออกๆ สภาฯ กันอย่างที่ปรากฏตาม ข่าว
1คน(จากเดิม1คน) พรรคเพื่อชาติ คะแนนพรรค 419, 121 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 1คน (จากเดิม5คน) และ พรรครวมพลังประชาชาติไทย คะแนนพรรค 415, 202 คะแนน หารด้วยคะแนนพึงมีจะได้ส. 1คน(จากเดิม4คน) เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า อีก15 พรรคที่เหลือหรือที่เรียกว่าเป็น "พรรคปัดเศษ" ซึ่งการเลือกตั้งรอบที่แล้วได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนพึงมีคือ 354, 419คะแนนจะต้อง "สูญพันธุ์" ไร้ส. ปาร์ตี้ลิสต์นั่งในสภาฯไปโดยปริยาย อ่านเกมแล้วไม่แปลกที่ความเคลื่อนไหวของบรรดา "พรรคเล็ก" ยามนี้จะเดินเกมขวาง ระบบเลือกตั้ง บัตร2ใบ และสูตรคำนวณ ปาร์ตี้ลิสต์ ด้วยการเดินสายขอเสียงส. ให้ครบ1ใน10หรือ73คน เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหวัง "เตะสกัด" โมเดลเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ื ไม่ต่างไปจากพรรคขนาดกลางไม่ว่าจะเป็น ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย และก้าวไกล ที่แม้ก่อนหน้าที่จะยืนยันเสียงแข็ง "มันจบแล้วครับนาย" และจะไม่ร่วมกับพรรคเล็กในการยื่นศาลเพื่อตีความร่างรัฐธรรมนูญ ยามนี้พยายามเดินเกมฟื้น "ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม" หรือ MMP ซึ่งเคยถูกคว่ำในชั้นกมธ. สอดแทรกในกฎหมายลูกที่กำลังยกร่างขณะนี้ หวังเกลี่ยคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มแต้มพรรคอีกทางหนึ่ง ขณะที่ "2 พรรคใหญ่" คือพลังประชารัฐและเพื่อไทย รวมถึง "1พรรคกลาง" อย่างประชาธิปัตย์ในฐานะเจ้าของร่าง แม้ยามนี้จะดูเหมือนจะเป็นต่อจากกติกาที่จะเกิดขึ้น ทว่าถึงเวลาจริงอาจต้องไปลุ้นที่คะแนน "ป๊อปปูล่าโหวต" ที่จะต้องไม่ต่ำเป้าไปจากรอบที่แล้วมากนัก โดยเฉพาะพลังประชารัฐในฐานะแกนนำรัฐบาล ที่เวลานี้กำลังเผชิญกับสภาวะคะแนนนิยมลดน้อยถอยลง จากนี้อาจต้องแก้เกมเร่งพลิกวิกฤติในการดึงคะแนนนิยมกลับคืนมา ไม่ต่างไปจากพรรคเพื่อไทยซึ่งรอบแล้วใช้ยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" เกลี่ยคะแนนส.
เขต "เท่ากับหรือมากกว่า" จำนวน "ส. พึงมี" จะไม่ได้ ส. ปาร์ตี้ลิสต์ โดยทั้ง 3 สูตร ต่างกันที่ "สเต็ปที่ 4" … สูตร 1 ของ กกต. +กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ. ) กกต. ยกเหตุผล-ตีความการคำนวณตาม "เจตนารมณ์" หรือ "คะแนนไม่ตกน้ำ" โดยมีวิธีการคำนวณ นำจำนวน ส. ปาร์ตี้ลิสต์ที่พรรคนั้นจะได้รับ "เบื้องต้น" พร้อมทศนิยมทั้ง 4 หลัก โดย "ไม่ตัด" เอาเฉพาะพรรคที่ได้ "คะแนนเกินค่าเฉลี่ยต่อ ส. 1 คน" หรือพรรคที่ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 71, 057. 4980 คะแนน อีกความหมาย คือ "ไม่ตัด" พรรคที่ได้ "คะแนนต่ำกว่า" 71, 057. 4980 คะแนนออกจากการคำนวณจำนวน ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ด้วยสูตรการคำนวณดังกล่าว จะทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้มีพรรคการเมืองในสภาอย่างน้อย 27 พรรค และจะทำให้พรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ "ส. 1 คนต่อประชาชน 71, 057. 4980 เสียง" แต่กลับได้ที่นั่งพรรคละ 1 คน โดยปริยาย ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 พรรค ได้แก่ พรรคประชาภิวัฒน์ พลังไทยรักไทย ไทยศรีวิไลย์ ประชานิยม ครูไทยเพื่อประชาชน ประชาธรรมไทย ประชาชนปฏิรูป พลเมืองไทย ประชาธิปไตยใหม่ พลังธรรมใหม่ และไทรักธรรม ในทาง "คณิตศาสตร์การเมือง" ดีดลูกคิด-ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐ-พรรคพันธมิตร "ได้เปรียบ" เพราะ "มีโอกาส" ที่ "พรรคเล็ก" 11 พรรคที่ยัง "ไม่ลงสัตยาบัน" ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ-ไม่สนับสนุน พล.
ควบคุมโรคตามคำสั่งของ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 6078/2564 เฉพาะพื้นที่เกาะสมุย และเจ้าของร้านได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยอมให้ผู้อื่นบริโภคเครืองดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหาร และเป็นเจ้าของร้านอาหารเปิดเกินเวลา 23. โดยฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 6078/2564 ฉบับที่66 เฉพาะพื้นที่เกาะสมุย © Matichon Public Co., Ltd. และเจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมเจ้าของร้านอาหารอีก 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หาดเฉวง ม. 2 ต. บ่อผุด แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอออล์ และยอมให้ผู้อื่นบริโภคเครืองดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหาร และเปิดให้มีการเล่นโต๊ะพูลภายในร้านอาหาร โดยฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 6078/2564 ฉบับที่ 66 เฉพาะพื้นที่เกาะสมุย ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดเกาะสมุยวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พิพากษาให้ผู้ต้องหาที่ผู้ร่วมงานปาร์ตี้วันเกิด 44 คน จำคุก15 วัน ปรับคนละ 10, 000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนร้านอาหาร 2 ร้าน จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ศาลพิพากษาปรับร้านละ 5, 000 บาท Microsoft และคู่ค้าอาจได้รับค่าคอมมิชชันหากคุณซื้อบางสิ่งผ่านลิงก์ที่แนะนำในบทความนี้
© Matichon ภาพประกอบข่าว เอ ศุภชัย ปลื้มปริ่ม! "แม่เบี้ย" เรตติ้งแรงฉุดไม่อยู่ อินเทรนด์กระแส "เราสามคนผัวเมีย" โต้เน้นขายเซ็กซ์ สปอยล์ทำตอนจบไว้ 2 แบบ แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับละครดราม่าอีโรติก "แม่เบี้ย" ของผู้จัดฯ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร หลังเรตติ้งพุ่งแรงทั่วประเทศ แถมเรื่องราวยังอินเทรนด์กระแสข่าว "เราสามคนผัวเมีย" งานนี้ เอ ศุภชัย เปิดใจกับทาง "ข่าวสดบันเทิงออนไลน์" ถึงความตั้งใจที่ทุ่มสุดตัว พร้อมยืนยันละครมีบทสรุปของคำสอน ไม่ได้เน้นขายแต่เซ็กซ์อย่างที่หลายคนเข้าใจ กระแสแม่เบี้ยตอนนี้มันแผ่ไปขนาดไหน? "อันนี้พี่เอเป็นผู้จัดฯ เลยไม่อยากตอบเอง แต่คำตอบอยู่ที่ทุกคนเลยค่ะ ว่า ตอนนี้แม่เบี้ยมันแผ่ไปทั่วประเทศไทยขนาดไหน ทั้งขึ้นเทรนด์ทวิเตอร์ ที้งเรตติ้ง ทั้งกระแส ทั้งสินค้าต่างๆ เอาไปทำเป็นแม่เบี้ยกันทั้งประเทศไทยแล้ว เป็นกระแสแม่เบี้ยฟีเวอร์ค่ะ " "ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่เอ็นดูผู้จัดฯ หน้าใหม่ ผลงานที่แบบทุกคนจะพูดคำเดียวว่าพี่เอทำทำไม แม่เบี้ยอีกแล้วเหรอ เหมือนกับเราเสียเซลฟ์ตั้งแต่ตอนเริ่ม แต่มาวันนี้รู้สึกหายเหนื่อยที่ทุกคนให้การตอบรับดีมากๆ เลยค่ะ อันนี้พี่เอชื่นใจ" ละครแซ่บ?