มาสิ เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินอันดับ 1 ของไทย มีทั้ง บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านและการรีไฟแนนซ์บ้าน นอกจากนั้นเรายังมีประกันภัยต่างๆ เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ และ ประกันภัยโดรน สามารถแอด Line: @masii มาเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้เลยค่ะ
หรือโทร. 0 2016 4888" ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด วันที่: 29 เมษายน 2563
เชื่อว่าหลายคนต้องมีบัญชีเงินเก็บส่วนตัวที่ออมจากรายได้ไว้ใช้ในอนาคต แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองควรมี "เงินเก็บ" เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเพียงพอกับการใช้จ่ายในอนาคตข้างหน้า ใจนึงก็อยากเก็บเงินต่อเดือนให้ได้มาก ๆ แต่ก็กลัวเดือนนั้นจะต้องมานั่งกินมาม่าเพราะไม่เหลือเงินในบัญชีใช้จ่าย ฟังดูเหมือนเป็นคำถามง่าย ๆ เพราะการเก็บเงินให้เยอะ ๆ ไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดี แต่การเก็บเงินแบบไม่มีเป้าหมายในชีวิตเลย อาจจะทำให้สถานะการเงินในปัจจุบันเกิดความยากลำบาก และมันจะทำให้เราไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่า "พอ" ทำไมต้องรีบเก็บเงิน? หากเราวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานแรก ๆ ก็จะทำให้เรามีเวลาในการเก็บเงินนานขึ้น และมีเงินพอให้ใช้ในวัยเกษียณมากขึ้น มีชีวิตบั้นปลายที่สุขสบาย อย่าลืมว่าช่วงอายุวัยทำงานเป็นช่วงที่เรามีการใช้จ่ายเงินหลายทาง ทั้งการสร้างฐานะ สร้างครอบครัว และการใช้จ่ายอื่น ๆ รู้ตัวอีกทีเราอาจจะอายุปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว ซึ่งหากมาเริ่มออมเงินอย่างจริงจังในตอนที่ห่างจากเวลาที่ต้องเกษียณเพียง 20 กว่าปีเท่านั้น คุณคิดว่าจะเก็บเงินได้ทันไหม ดังนั้นเราถึงต้องวางแผนการเก็บเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อายุเท่านี้ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่?
ที่จะถึง ส่วนจะจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยเพิ่มคนละเท่าไหร่นั้น ต้องขอดูจำนวนผู้สละสิทธิ์ และภาษีบาปจากเหล้า บุหรี่ รวมไปถึงงบประมาณของรัฐประกอบด้วย ซึ่งภาษีสรรพสามิตจากเหล้า บุหรี่ ที่เก็บได้กว่า 1 แสนล้านต่อปี ทางกรมสรรพสามิตได้นำส่งเข้าคลังเพื่อใช้จัดสรรในงบประมาณส่วนต่างๆ และหากจะนำไปจัดตั้งกองทุนชราภาพก็สามารถทำได้เช่นกัน ถือเป็นนโยบายบุญที่ทำให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะดีได้สร้างสิ่งดีต่อไปยังผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจนให้ได้ยิ้มกับเบี้ยที่จะเพิ่มมากขึ้น นับเป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ในบั้นปลายชีวิตที่ทั้งสุขใจผู้ให้ และอิ่มเอมใจผู้รับ ที่เราคนไทยสามารถช่วยเหลือแบ่งปันให้กันและกันได้ ที่มา
1. ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน ปัญหาของคนที่ยังไม่เคยวางแผนการเก็บเงิน มีทั้งแบบที่เก็บเยอะเกินไปและเก็บน้อยเกินไป เพราะคนเหล่านี้ไม่มีเป้าหมายในการเก็บเงินจึงไม่รู้ว่าแบบไหนถึงพอดีกับตัวเอง ดังนั้นเราควรมีเป้าหมายก่อน รู้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ในเวลาแค่ไหน และจำนวนเท่าไหร่ เช่น เราอยากมีเงินเพื่อดาวน์บ้านจำนวน 300, 000 บาท ภายใน 5 ปี หรืออยากมีเงิน 7, 200, 000 บาท สำหรับเกษียณในอีก 30 ปี ซึ่งอาจจะมีเป้าหมายหลายข้อ และเป็นได้ทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว 2. แยกเก็บเงินเป็นส่วน ถ้าเรามีหลายเป้าหมายในการเก็บเงิน เราควรจะเปิดบัญชีธนาคารแยกเงินเป็นส่วน ๆ ตามเป้าหมาย เช่น บัญชีแรกเปิดไว้สำหรับการดาวน์บ้านใหม่ภายในเวลา 5 ปี และบัญชีที่สองเปิดไว้สำหรับเงินเกษียณในอีก 30 ปี จากนั้นก็มาทำการคำนวณว่าแต่ละเดือนต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อให้ครบในระยะเวลาที่เรากำหนด 3. เรียนรู้การขอสินเชื่อ ถ้าเราเก็บเงินเดือนละ 5, 000 บาทเพื่อซื้อบ้านราคาหลายล้าน เราคงได้อยู่บ้านตอนอายุราว ๆ 50-60 ปี ดังนั้นจึงเราต้องเรียนรู้ที่จะขอสินเชื่อหรือการกู้เงินจากธนาคาร เช่น หากเราอยากซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท เราต้องมีเงินเก็บด้วยตัวเองเพื่อดาวน์อย่างน้อย 10% หรือ 300, 000 บาท ส่วนที่เหลือก็ทำเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคาร ถ้าเรามีอายุไม่ถึง 40 ปี ก็อาจจะสามารถผ่อนได้นานถึง 30 ปี ซึ่งข้อดีของการขอสินเชื่อคือเราจะมีบ้านในระยะเวลาที่เร็วขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับการที่เราต้องทยอยจ่ายเงินทุกเดือน จนกว่าค่าบ้านจะหมดไปพร้อม ๆ กับดอกเบี้ยเงินกู้ 4.
จะตอบยังไง?
ผู้สูงอายุทั่วประเทศได้ยิ้มกันยกใหญ่ เมื่อรัฐบาลประกาศเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1, 200-1, 500 บาทต่อเดือน ด้วยเหตุผลน่าประทับใจที่ใครๆ ก็ต้องปลื้มกันจริงๆ เมื่อวันที่ 26 ม. ค.
/ปวส. /ปริญญาตรี จากเดิม 2, 400 บาท เป็น 3, 000 บาท/เดือน สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่กำลังมองหาโอกาสทางการศึกษาเพื่อต่อยอดสู่สาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก โดยเฉพาะสาขาวิชาที่อยู่ในโครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและ 3 โครงสร้างพื้นฐาน โดยให้สิทธิพิเศษกับผู้กู้ยืมที่เรียนระหว่างปีการศึกษา 2562 - 2566 เมื่อสำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกินร้อยละ 0.